แปลง ขอบเขตการกระเจิงของอิเล็กตรอน เป็น ไมโครเมตรกำลังสอง
โปรดป้อนค่าด้านล่างเพื่อแปลง ขอบเขตการกระเจิงของอิเล็กตรอน [ECS] เป็น ไมโครเมตรกำลังสอง [µm^2], เป็น แปลง ไมโครเมตรกำลังสอง เป็น ขอบเขตการกระเจิงของอิเล็กตรอน.
วิธีการแปลง ขอบเขตการกระเจิงของอิเล็กตรอน เป็น ไมโครเมตรกำลังสอง
1 ECS = 1e-40 µm^2
ตัวอย่าง: แปลง 15 ECS เป็น µm^2:
15 ECS = 15 × 1e-40 µm^2 = 1.5e-39 µm^2
ขอบเขตการกระเจิงของอิเล็กตรอน เป็น ไมโครเมตรกำลังสอง ตารางการแปลง
ขอบเขตการกระเจิงของอิเล็กตรอน | ไมโครเมตรกำลังสอง |
---|
ขอบเขตการกระเจิงของอิเล็กตรอน
ขอบเขตการกระเจิงของอิเล็กตรอน (ECS) เป็นมาตรการความน่าจะเป็นของอิเล็กตรอนที่มีปฏิสัมพันธ์กับอนุภาคเป้าหมายหรือวัสดุ โดยทั่วไปจะแสดงในหน่วยพื้นที่ เช่น ตารางเมตรหรือบาร์น
ประวัติ/ต้นกำเนิด
แนวคิดของขอบเขตการกระเจิงเริ่มต้นในฟิสิกส์นิวเคลียร์และอนุภาคเพื่อวัดความน่าจะเป็นของปฏิสัมพันธ์ ขอบเขตการกระเจิงของอิเล็กตรอนได้รับการพัฒนาผ่านการวัดเชิงทดลองและแบบจำลองทางทฤษฎีตั้งแต่ต้นศตวรรษที่ 20 ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการเข้าใจปฏิสัมพันธ์ระหว่างอิเล็กตรอนและวัสดุ
การใช้งานปัจจุบัน
ECS ถูกนำไปใช้ในสาขาต่าง ๆ เช่น ฟิสิกส์พลาสมา, จอภาพอิเล็กตรอน, และฟิสิกส์รังสี เพื่อวิเคราะห์การกระเจิงของอิเล็กตรอน กระบวนการชนกัน และคุณสมบัติของวัสดุ ช่วยในการออกแบบการทดลองและการแปลความข้อมูลการปฏิสัมพันธ์ของอิเล็กตรอน
ไมโครเมตรกำลังสอง
ไมโครเมตรกำลังสอง (µm²) เป็นหน่วยพื้นที่เท่ากับพื้นที่ของสี่เหลี่ยมจัตุรัสที่มีด้านวัดหนึ่งไมโครเมตร (µm)
ประวัติ/ต้นกำเนิด
ไมโครเมตรกำลังสองมีต้นกำเนิดจากการพัฒนาระบบเมตริกและเทคนิคการวัดจุลทรรศน์ ซึ่งกลายเป็นมาตรฐานในสาขาวิทยาศาสตร์ที่ต้องการการวัดพื้นที่อย่างแม่นยำในระดับจุลทรรศน์
การใช้งานปัจจุบัน
ไมโครเมตรกำลังสองถูกใช้ในสาขาเช่น จุลชีววิทยา วิทยาศาสตร์วัสดุ และนาโนเทคโนโลยี เพื่อวัดพื้นที่ผิวขนาดเล็ก ขนาดอนุภาค และคุณสมบัติจุลทรรศน์